ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ แห่งไต้หวัน ได้ยื่นข้อเสนอลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 0% เมื่อวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) ที่ผ่านมา โดยให้คำมั่นว่าไต้หวันจะมุ่งขจัดอุปสรรคทางการค้า แทนการใช้มาตรการตอบโต้ และจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ ต่อไป
รายงานระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าครอบคลุมสินค้าจากทั่วโลกเมื่อวันพุธที่แล้ว (2 เม.ย.) โดยเฉพาะกับคู่ค้าหลายรายที่มียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ รวมถึงไต้หวัน ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีสูงถึง 32% อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ไม่ครอบคลุมถึงเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไต้หวัน
ผู้นำไต้หวันมองว่า แม้เศรษฐกิจของไต้หวันที่พึ่งพาการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ แต่ก็เชื่อมั่นว่าสามารถลดผลกระทบนั้นได้
ปธน.ไล่ระบุว่า ไต้หวันต้องการเห็นการเจรจาที่เริ่มต้นจากหลักการ "ปลอดภาษี" ระหว่างสองประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก พร้อมย้ำว่าไต้หวันไม่มีแผนที่จะใช้มาตรการตอบโต้ทางภาษี และบริษัทไต้หวันจะยังคงลงทุนในสหรัฐฯ ตราบใดที่ส่งผลดีต่อไต้หวัน
เมื่อเดือนที่ผ่านมา บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ผู้ผลิตชิปสัญญาจ้างรายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศแผนลงทุนเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ซึ่งปธน.ไล่ระบุว่า นอกจาก TSMC แล้ว อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสาร ปิโตรเคมี และพลังงาน ก็สามารถเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ไต้หวันยังประกาศเตรียมขจัดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งเป็นปัญหามายาวนาน เพื่อให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เป็นไปอย่างราบรื่น