ไต้หวันเผย พร้อมคุยเรื่องภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ทุกเมื่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 8, 2025 13:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หลิน เจียหลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เปิดเผยในวันนี้ (8 เม.ย.) ว่า ไต้หวันพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ ทุกเมื่อในประเด็นภาษีนำเข้า ท่ามกลางความกังวลด้านการค้าที่ฉุดให้ตลาดหุ้นไต้หวันร่วงหนักก่อนหน้านี้

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุว่า ไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่นั้น เป็นหนึ่งในคู่ค้าที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าด้วยมากที่สุด พร้อมประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า 32% โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวกดดันให้ดัชนีหุ้นไต้หวันร่วงลงหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์เกือบ 10% เมื่อวันจันทร์ (7 เม.ย.) และยังคงปรับตัวลดลงต่อในช่วงเช้าวันนี้

หลินกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไต้หวันพร้อมหารือกับสหรัฐฯ ในหลายประเด็น ทั้งเรื่องภาษีนำเข้า การลงทุน การสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ และอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี โดยย้ำว่าตราบใดที่มีเวลาและวิธีการเจรจาที่ชัดเจน ก็สามารถหารือกับสหรัฐฯ ได้ตลอดเวลา

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน เสนอเมื่อวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) ให้จัดทำข้อตกลงปลอดภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ และการขจัดอุปสรรคทางการค้า

ด้านนายกรัฐมนตรีจั๋ว หรงไท่ ยืนยันว่า ไต้หวันต้องการเจรจาและมีแผนการที่ครอบคลุมพร้อมแล้วสำหรับการพูดคุยกับสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน แม้ทั้งสองจะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการก็ตาม

สำหรับตลาดหุ้นไต้หวันในช่วงเช้าวันนี้ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีก 4% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ขณะที่หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง TSMC ผู้ผลิตชิปตามสัญญาจ้างรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดลง 4% ส่วนหุ้นฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ผู้ผลิต iPhone รายใหญ่ที่สุดให้แอปเปิ้ล (Apple) ร่วงลงเกือบ 10%

เจ้าหน้าที่ไต้หวันชี้แจงว่า การที่ไต้หวันเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อย่างมหาศาลนั้น เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าเทคโนโลยีทั่วโลกที่สูงขึ้น ซึ่งบริษัทไต้หวันเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับบริษัทอเมริกันอย่างแอปเปิ้ลและอินวิเดีย (Nvidia)

ทั้งนี้ หอการค้าอเมริกันในไต้หวันได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ โดยแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อมาตรการภาษีดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเว้นไต้หวันจากการดำเนินการทางการค้าครั้งนี้ โดยระบุว่าอาจเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ