นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) เปิดเผยว่า การย้ายฐานการผลิตไอโฟน (iPhone) กลับมายังสหรัฐฯ นั้นเป็นไปได้ แต่ต้นทุนการผลิตอาจเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และสร้างปัญหาด้านโลจิสติกส์
ทีมนักวิเคราะห์ซึ่งนำโดย แวมซี โมฮาน ระบุในบันทึกถึงลูกค้าเมื่อวันพุธ (10 เม.ย.) ว่า ค่าแรงงานในสหรัฐฯ ที่สูงกว่าจีนเพียงอย่างเดียวก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตไอโฟนเพิ่มขึ้น 25% แล้ว แม้แอปเปิ้ล (Apple) จะสามารถหาแรงงานในประเทศสำหรับการประกอบสินค้าได้ แต่ชิ้นส่วนจำนวนมากยังคงต้องประกอบในจีนและนำเข้ามายังสหรัฐฯ
ดังนั้น หากแอปเปิ้ลต้องจ่ายภาษีศุลกากรตอบโต้สำหรับการนำเข้า ต้นทุนรวมอาจพุ่งสูงขึ้นถึง 90% หรือมากกว่า
รายงานระบุว่า การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยรัฐบาลทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 125% ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ 84%
ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิ้ลพุ่งขึ้นขานรับข่าวทรัมป์ประกาศระงับการเก็บภาษีตอบโต้จากประเทศต่าง ๆ เป็นเวลา 90 วัน โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 10% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นได้รับผลกระทบอย่างหนักในปีนี้ โดยลดลงไปแล้ว 23% และลดลง 14% นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศนโยบายภาษีนำเข้าเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ส่งผลให้มูลค่าตลาดของแอปเปิ้ลหายไป 4.79 แสนล้านดอลลาร์