นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส (Barclays) มองว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ชะลอการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ออกไป 90 วันก็ตาม
นักวิเคราะห์ระบุว่า พวกเขายังรอความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องภาษีของทรัมป์ก่อนจะประเมินผลกระทบต่อผลิตภาพทางเศรษฐกิจของยูโรโซนอีกครั้ง
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงสัญญาณเงินเฟ้อในยูโรโซนเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ ECB ต้องลดอัตราดอกเบี้ยลง
ทรัมป์ได้ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ 20% กับสหภาพยุโรป (EU) แต่ต่อมาก็ได้เลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม EU ยังคงเผชิญภาษีพื้นฐาน 10% และภาษี 25% สำหรับเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์
นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า หากนโยบายภาษีของทรัมป์ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ECB อาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยลงต่ำกว่า 2% ภายในปีนี้
มีรายงานว่า ECB เริ่มวิตกมากขึ้นว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนซึ่งก่อนหน้านี้ก็เติบโตอย่างซบเซาอยู่แล้ว อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ออลลี เรห์น ผู้ว่าการธนาคารกลางฟินแลนด์และกรรมการ ECB กล่าวว่า มาตรการทางการค้าของทรัมป์ได้เพิ่มความเสี่ยงในด้านลบต่อเศรษฐกิจ