เฟเดอรัล เรจิสเตอร์ (Federal Register) ซึ่งเป็นประกาศอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ประกาศเมื่อวานนี้ (14 เม.ย.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เริ่มกระบวนการสอบสวนการนำเข้ายาและเซมิคอนดักเตอร์แล้ว เพื่อหาทางใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าทั้งสองประเภทนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังสหรัฐฯ ได้เริ่มเก็บภาษีนำเข้า 10% ไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย. แต่ยังยกเว้นยาและเซมิคอนดักเตอร์ อย่างไรก็ดี ทรัมป์ได้กล่าวว่าสินค้าเหล่านี้จะถูกพิจารณาเก็บภาษีแยกต่างหาก
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะประกาศอัตราภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ภายในสัปดาห์นี้ โดยอาจมีการยืดหยุ่นให้กับบางบริษัทในอุตสาหกรรมนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เริ่มการสอบสวนภายใต้มาตรา 232 เกี่ยวกับการนำเข้าทองแดงและไม้ ขณะที่ผลจากการสอบสวนในสมัยแรกของทรัมป์ได้นำไปสู่การกำหนดอัตราภาษีที่เริ่มใช้ไปแล้ว ทั้งเหล็ก อะลูมิเนียม และอุตสาหกรรมยานยนต์
ที่ผ่านมานั้น สหรัฐฯ พึ่งพาการนำเข้าชิปจากไต้หวันเป็นอย่างมาก ขณะที่บริษัทผู้ผลิตยาได้ออกมาโต้แย้งว่าการเก็บภาษีนำเข้าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการขาดแคลนยาและลดโอกาสการเข้าถึงยาของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงผลักดันมาตรการนี้ โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีการผลิตยาภายในประเทศมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการจัดหายาจากต่างประเทศ