สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวันนี้ (15 เม.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ทางการจีนได้สั่งการให้สายการบินต่าง ๆ ในประเทศ งดรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง (Boeing) ล็อตใหม่ เพื่อตอบโต้การตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ประกาศตั้งกำแพงภาษี 145% กับสินค้าจากจีน
นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนยังได้ร้องขอให้สายการบินจีนระงับการจัดซื้ออุปกรณ์และชิ้นส่วนอากาศยานจากบริษัทสัญชาติอเมริกันเจ้าต่าง ๆ ด้วย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ต้นทุนการบำรุงรักษาฝูงบินในประเทศปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กับจีนกำลังเผชิญหน้ากันในสงครามภาษีศุลกากร อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีของฝ่ายสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือสายการบินต่าง ๆ ที่เช่าเครื่องบินโบอิ้งและต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้นจากสถานการณ์นี้
กำแพงภาษี 125% จะทำให้ต้นทุนเครื่องบินโบอิ้งสำหรับสายการบินจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก กลายเป็นภาระทางการเงินที่หนักอึ้ง และอาจผลักดันให้สายการบินหันไปพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น เครื่องบินจากค่ายแอร์บัส (Airbus) หรือแม้แต่โคแมค (COMAC) ผู้ผลิตสัญชาติจีน
สำหรับสายการบินยักษ์ใหญ่ 3 แห่งของจีน ได้แก่ แอร์ไชน่า (Air China), ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ส (China Eastern Airlines) และไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ส (China Southern Airlines) ต่างก็มีแผนรับมอบเครื่องบินโบอิ้งรวมกันจำนวน 45, 53 และ 81 ลำ ตามลำดับ ในช่วงปี 2568-2570