ญี่ปุ่นเล็งขยายโควตานำเข้าข้าวปลอดภาษีจากสหรัฐฯ หวังต่อรองทรัมป์ยกเว้นภาษี

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มการนำเข้าข้าวปลอดภาษีจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาต่อรองให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกเว้นภาษีศุลกากรแก่ญี่ปุ่น ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวเมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.)

แหล่งข่าวเผยว่า ญี่ปุ่นอาจเพิ่มปริมาณการนำเข้าข้าวสหรัฐฯ จาก 350,000 ตัน เป็นประมาณ 410,000 ตัน ซึ่งไม่เกินโควตาการนำเข้าข้าวขั้นต่ำ หรือ Minimum Access (MA) ของญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นกำหนดโควตาการนำเข้าข้าวปลอดภาษีจากทั่วโลกไว้ที่ 770,000 ตันต่อปี และการนำเข้าที่เกินกว่านี้จะต้องเสียภาษี 341 เยนต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามกฎขององค์การการค้าโลก (WTO)

รายงานระบุว่า ปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการยกเว้นภาษีศุลกากรข้าวของญี่ปุ่น โดยในปีงบประมาณ 2566 ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวขั้นต่ำจากสหรัฐฯ 348,000 ตัน หรือคิดเป็น 45% ของโควตาทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น ปธน.ทรัมป์ก็ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ญี่ปุ่นในประเด็นการนำเข้าข้าวอยู่บ่อยครั้ง โดยอ้างว่าญี่ปุ่นกำหนดภาษีนำเข้าข้าวสูงถึง 700% ซึ่งทาคุ เอโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่นปฏิเสธ

ทั้งนี้ คาดว่า เรียวเซ อากาซาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้เจรจาของญี่ปุ่นและผู้ช่วยคนสนิทของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ จะจัดการเจรจารอบที่สองกับสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นหวังที่จะคลี่คลายความขัดแย้งด้วยข้อเสนอขยายโควตานำเข้าข้าวดังกล่าว เพื่อแลกกับการยกเว้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ซึ่งเป็นประเด็นที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ หลังจากที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง รวมถึงเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ของสหรัฐฯ แสดงความลังเลที่จะทบทวนมาตรการดังกล่าวในการเจรจาระดับรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 เมษายน

แหล่งข่าวเสริมว่า ปกติแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นจะปกป้องอุตสาหกรรมข้าวในประเทศในการเจรจาการค้าต่าง ๆ แต่รัฐบาลพิจารณาเห็นแล้วว่าจำเป็นต้องมีการผ่อนปรนบางประการเพื่อให้ได้รับการยกเว้นภาษีจากสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ กล่าวในการประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันจันทร์ (21 เม.ย.) ว่า "เราได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องภาคเกษตรกรรมของญี่ปุ่น แต่ภาคอุตสาหกรรมนี้กำลังตกต่ำ เราจึงต้องคิดทบทวนวิธีการจัดการเรื่องนี้ใหม่"