คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (24 เม.ย.) ว่า IMF ยังคงมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการป้องกันวิกฤตดุลการชำระเงิน พร้อมรับฟังข้อกังวลจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อปรับนโยบายให้สอดคล้องกัน แต่ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า IMF จะยังคงสนับสนุนประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป
กอร์เกียวากล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในการแถลงข่าวการประชุมฤดูใบไม้ผลิของ IMF และธนาคารโลก โดยระบุว่า ข้อเสนอแนะจากสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะถูกนำไปหารือกับตัวแทนจาก 190 ประเทศสมาชิกของ IMF พร้อมเสริมว่า เธอยินดีที่ได้รับทราบจากเบสเซนต์ว่า สหรัฐฯ ให้การสนับสนุน IMF
ทั้งนี้ เบสเซนต์กล่าวเมื่อวันพุธว่า IMF และธนาคารโลกควรกลับไปเน้นภารกิจหลักด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและการพัฒนา แทนที่จะไปให้ความสำคัญกับประเด็นอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเท่าเทียมทางเพศและการมีส่วนร่วม ซึ่งเขามองว่าบั่นทอนประสิทธิภาพขององค์กร
เมื่อถูกถามว่า IMF จะทบทวนโครงการ Resilience and Sustainability Trust ซึ่งเปิดตัวในปี 2565 เพื่อปล่อยเงินกู้ช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในการรับมือกับปัญหาโลกร้อน โรคระบาด และความท้าทายระยะยาวอื่น ๆ หรือไม่นั้น กอร์เกียวาตอบว่า เงินกู้ในส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนเล็กมากของงบประมาณรวมของ IMF พร้อมเน้นย้ำว่า IMF เป็นองค์กรที่มีสมาชิก ซึ่งนโยบายจะถูกกำหนดโดยเสียงส่วนใหญ่ของประเทศสมาชิก
กอร์เกียวาเน้นย้ำว่า IMF กำลังเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวงด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค อันเกิดจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 100 ปี และเป็นสาเหตุให้ IMF ต้องปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 เมื่อต้นสัปดาห์นี้
กอร์เกียวาระบุว่า ประเทศต่าง ๆ ควรเร่งเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจ เช่น การปรับปรุงกฎระเบียบ การสนับสนุนนวัตกรรม และเพิ่มผลิตภาพ เพื่อตอบรับกับแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้า พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศเศรษฐกิจหลักเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งด้านภาษีอย่างรวดเร็ว เพื่อคลี่คลายความไม่แน่นอนที่กำลังทำให้การลงทุนและการบริโภคหยุดชะงัก