กระทรวงการคลังและธนาคารกลางจีนเตือนในการประชุมกลุ่ม G20 ว่า เศรษฐกิจโลกยังเติบโตไม่เพียงพอ โดยระบุว่าสงครามการค้าและการเก็บภาษีนำเข้าที่ระดับสูงทำให้เศรษฐกิจและระบบการเงินไร้เสถียรภาพมากขึ้น และยังทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอลงด้วย
การประชุม G20 ครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอย่างมาก ซึ่งสร้างความผันผวนในตลาดการเงิน และทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
หลัน ฝออัน รัฐมนตรีคลังจีน กล่าวในการประชุมที่กรุงวอชิงตันว่า ทุกฝ่ายควรเสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคี โดยจีนสนับสนุนให้มีการเจรจาและปรึกษาหารือบนพื้นฐานของความเท่าเทียมเพื่อยุติข้อพิพาทด้านภาษีและการค้า
ขณะเดียวกัน พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุในแถลงการณ์ว่า การแบ่งแยกทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดด้านการค้าได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
แถลงการณ์ของ PBOC ยังระบุด้วยว่า ผู้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของ G20 รายอื่น ๆ ก็แสดงความกังวลถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการเติบโตทั่วโลก ทั้งจากความขัดแย้งด้านการค้า ภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น และความท้าทายเชิงโครงสร้างในระยะยาว
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมยังเรียกร้องให้มีการเสริมสร้างการเจรจาและการประสานนโยบายด้วย