รายงานเผยแผนพลังงานของสหรัฐไม่กระทบการผลิตน้ำมันของปท.รอบอ่าวเปอร์เซีย

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 20, 2013 10:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานที่เผยแพร่โดยบริษัทวิจัยโอเรียนท์ แพลเน็ทระบุว่า แผนลดการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในกลุ่มประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันจากตะวันออกกลางของประเทศในเอเชียยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น

รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวสำคัญๆที่เกิดขึ้นในแวดวงน้ำมันทั่วโลกระยะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอเมริกา "จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะของตะวันกลางในฐานะผู้นำด้านพลังงานในระยะยาว"

ภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งมีแหล่งน้ำมันสำรองคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 36% ของทั้งโลก จะไม่ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่หดตัว เนื่องจากความต้องการพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มีการคาดการณ์ว่า สหรัฐอเมริกาจะขึ้นแท่นผู้นำการผลิตน้ำมันโลกภายในปี 2560 อีกทั้งยังคาดการณ์กันด้วยว่า สหรัฐจะกลายเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติภายในปี 2578 อันเนื่องมาจากการค้นพบก๊าซธรรมชาติในชั้นหินดินดาน

อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลุ่มประเทศในเอเชียจะบริโภคน้ำมันที่ผลิตใน 6 ประเทศสมาชิกสภาความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ สูงถึง 90% โดยประเทศสมาชิกดังกล่าวได้แก่ซาอุดิอาระเบีย คูเวต บาห์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน

โอเรียนท์ แพลเน็ทชี้ว่า สัดส่วนน้ำมันที่สหรัฐนำเข้าจากตะวันออกกลางนั้นมีปริมาณน้อยกว่าที่ใครอาจคาดคิด โดยสหรัฐมียอดนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางเพียง 16% เท่านั้น

นอกจากจะมีแหล่งสำรองน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ภูมิภาคตะวันออกกลางยังมีความใกล้ชิด ตลอดจนมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งกับจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก โดยโอเรียนท์ แพลเน็ทระบุว่า "แค่อุปสงค์น้ำมันของจีนเพียงประเทศเดียวก็มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเป็นครึ่งหนึ่งของทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า" สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ