ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) แสดงให้เห็นว่า จีนขึ้นแท่นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิรายใหญ่สุดของโลกแทนที่สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีน รวมถึงยอดขายรถที่เพิ่มสูงขึ้น
EIA ระบุในรายงานประจำเดือนก.ย.ว่า การบริโภคน้ำมันในจีนแซงหน้าการผลิตอยู่ 6.3 ล้านบาร์เรล/วัน เทียบกับสหรัฐที่ 6.1 ล้านบาร์เรล โดยอุปทานน้ำมันของจีนเองไม่เพียงพอรองรับความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับแหล่งน้ำมันได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา จีนจึงต้องนำเข้าน้ำมันเพื่อชดเชยกับที่ขาดแคลน
EIA คาดการณ์ว่าแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2557
รายงานระบุว่า สหรัฐใช้น้ำมัน 18.6 ล้านบาร์เรล/วัน เทียบกับจีนที่ 10.9 ล้านบาร์เรล แม้ว่าสหรัฐมีประชากรน้อยกว่า โดยคิดเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของประชากรจีน
อย่างไรก็ดี สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการในประเทศได้มากขึ้น เนื่องจากการขุดเจาะน้ำมันด้วยการสร้างรอยร้าวในชั้นหิน หรือ fracking ช่วยให้สหรัฐมีพลังงานใช้เพิ่มขึ้นมาก แม้วิธีการดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าเป็นตัวทำลายสภาพแวดล้อมก็ตาม