นายแจ็ค เจอราด ประธานและซีอีโอของ API ระบุในรายงาน State of American Energy ปี 2558 ซึ่งเป็นรายงานด้านพลังงานประจำปีว่า ราคาน้ำมันที่ร่วงลงในขณะนี้จะกระทบอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐในช่วงสั้นๆ เนื่องจากบริษัทหลายแห่งได้ลดการใช้จ่ายและการลงทุนลง
"อย่างไรก็ดี ในระยะยาวจะยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการสำรวจและพัฒนาพลังงานรูปแบบใหม่" นายเจอราดเสริม
องค์การข้อมูลข่าวสารด้านพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา (EIA) ระบุว่า อุปสงค์เชื้อเพลิงเหลวทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 25% ในอีก 25 ปีข้างหน้า ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาของกลุ่มประเทศและตลาดเกิดใหม่
ด้านนางราโยลา โดเออร์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเศรษฐกิจของ API เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจะบีบให้บริษัทน้ำมันสหรัฐลงทุนในด้านนวัตกรรมเชิงเทคนิคมากขึ้น เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิต ขณะที่การผลิตซึ่งใช้ต้นทุนสูงจะหายไปจากอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานในอนาคต
นางโดเออร์เสริมว่า อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ถึงผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐ จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ร่วงลงในขณะนี้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบที่พบในชั้นหินดินดานค่อนข้างจะแตกต่างกันในสหรัฐ และแนวโน้มราคาน้ำมัน็เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ค่อนข้างยาก
"ตัวอย่างเช่น นอร์ธ ดาโกต้า ที่สามารถผลิตน้ำมันดิบด้วยต้นทุนตั้งแต่ 25-80 ดอลลาร์/ บาร์เรล"
ที่ปรึกษาของ API ยังกล่าวว่า "ช่วงวิกฤตครั้งล่าสุดเมื่อปี 2551 ซึ่งราคาน้ำมันในเดือนมิ.ย. ร่วงลงจาก 140 ดอลลาร์/ บาร์เรล ไปแตะที่ 35 ดอลลาร์/ บาร์เรลในเดือนธ.ค. และในช่วงฤดูร้อนถัดไปที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเกือบแตะระดับ 100 ดอลลาร์ ดังนั้น เราจึงไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดจะอยู่ตรงไหน"
หากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐจะมีไม่มากนัก
นางโดเออร์เสริมว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจะส่งผลดีต่อการขยายตัวด้านเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันโลก และช่วยถ่วงดุลราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้ร่วงลงจากระดับที่สูงกว่า 100 ดอลลาร์/ บาร์เรลเมื่อเดือนมิ.ย. 2557 แตะที่ระดับประมาณ 50 ดอลลาร์/ บาร์เรลในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2552 เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ขณะที่อุปทานเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากผลผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานของสหรัฐ และการตัดสินใจคงเพดานการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปค สำนักข่าวซินหัวรายงาน