เธอกล่าวว่า “การร่วงลงอย่างหนัก" ของราคาน้ำมันคือ “ตัวพลิกเกม" โดยเกี่ยวข้องกับภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจมหภาคและตลาดในปี 2558 และแนวโน้มระยะกลาง
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์รูดลง 50% ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้วจนถึงเดือนม.ค.ปีนี้ โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปีที่ต่ำกว่า 47 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 16%
ปี 2558 จะเป็นสถานการณ์ของการขยายตัวที่มีภาวะเงินฝืด ซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะลดลงและผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวในเวลาเดียวกัน
นักเศรษฐศาสตร์รายนี้เชื่อว่า ภาวการณ์นี้จะนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น เงินเฟ้อที่ต่ำลง และราคาที่ลดลงในกลุ่มประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน แต่สร้างความท้าทายต่อภูมิภาคที่ส่งออกน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ระดับต่ำแสดงถึง “โอกาสที่สำคัญสำหรับกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับในการดำเนินการปรับโครงสร้างในเชิงลึก เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมันและเพื่อยกระดับเศรษฐกิจสู่แนวโน้มการขยายตัว"
นางโอเวนส์ ธอมเซนคาดว่า ภาวะ “transflation" (ภาวะที่เงินเฟ้อลดลง ขณะที่จีดีพีขยายตัว) จะดำเนินไปในช่วงเวลาที่ค่อนข้างสั้น แต่ปี 2558 จะเป็นปีโดดเด่นของการขยายตัวแข็งแกร่งมากขึ้น เงินเฟ้อลดลง และอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เอื่ออำนวยต่อสินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภท
เธอยังกล่าวว่า ปัจจัยด้านอุปทานจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลง ไม่ใช่อุปสงค์ที่อ่อนแอ สำนักข่าวซินหัวรายงาน