สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมี.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 2.72 ดอลลาร์ หรือ 5.1% แตะ 50.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังการเปิดเผยข้อมูลน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ขณะที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน
ทั้งนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในเดือนส.ค.1982 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่น้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นมีปริมาณสูงขึ้นเช่นกัน
สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรล จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 67,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.9%
นอกจากนี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยเช่นกันว่า น้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว