นายทิลเลอร์สันคาดว่า ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกหลายปี ซึ่งจะกระทบต่อการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ
เขายังกล่าวว่า บริษัทสหรัฐได้ลดการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากประสบภาวะปริมาณก๊าซล้นตลาด ซึ่งส่งผลให้ราคาดิ่งลง แต่เขาระบุว่า ผลผลิตก๊าซกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทต่างๆมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งเขาคาดว่า shale oil ก็จะมีแนวโน้มเหมือนกัน
ทั้งนี้ shale oil คือ เชื้อเพลิงชนิดหนึ่งที่อยู่ในรูปแบบของหินดินดาน โดยมีอินทรีย์สารที่เรียกว่า เคโรเจน (Kerogen) ปะปนอยู่ในเนื้อหิน มักมีสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ และเกิดจากซากพืชซากสัตว์กับตะกอนขนาดเล็กที่สะสมตัวอยู่ในแอ่งตะกอนทับถมกันจนเป็นเวลานานหลายล้านปี ความดันและอุณหภูมิก็ทำให้เกิดการแปรสภาพทำให้เกิดลักษณะยางเหนียวที่ประกอบไปด้วยไฮโดรคาร์บอนซึ่งเมื่อนำ shale oil ไปเผาที่อุณหภูมิประมาณ 500 องศาเซลเซียส ก็จะได้น้ำมันและก๊าซไฮโดรคาร์บอนออกมา แหล่ง shale oil ในสหรัฐ ถือเป็นแหล่งที่มีความสำคัญ เพราะนอกจากมีปริมาณมากแล้ว ยังสามารถดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย การผลิตน้ำมันจาก shale oil มีราคาต้นทุนสูงกว่าการผลิต crude oil โดยอยู่ที่ 40-60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ต้นทุนของ crude oil อยู่ที่ 20-30 ดอลลาร์/บาร์เรล