ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยในวันนี้บนเว็บไซต์ขององค์กร Joint Organisations Data Initiative (JODI) ซึ่งเผยด้วยว่าซาอุฯ ผลิตน้ำมันดิบได้ 10.29 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 9.64 ล้านในเดือนก.พ. โดยยอดการผลิตน้ำมันในเดือนมี.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่ JODI ได้เริ่มเก็บรวบรวมสถิติจากรัฐบาลประเทศต่างๆ เมื่อเดือนม.ค.2545
ด้านอิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) รองจากซาอุดิอาระเบีย มียอดส่งออกน้ำมัน 2.98 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ที่อิรักได้เริ่มส่งข้อมูลให้ JODI เมื่อเดือนม.ค.2550
ทั้งนี้ ซาอุฯและอิรัก รวมถึงประเทศในตะวันออกกลาง ต่างเพิ่มการส่งออกเพื่อแข่งขันกับประเทศต่างๆจากลาตินอเมริกา แอฟริกาเหนือ และรัสเซียที่ส่งน้ำมันไปขายยังเอเชีย โดยการแข่งขันดุเดือดเข้มข้นขึ้นนับตั้งแต่ที่โอเปคตัดสินใจคงเพดานการผลิตไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย. โอเปคมีกำหนดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ขณะเดียวกันรายงานบนเว็บไซต์ JODI ยังเผยด้วยว่า ซาอุฯใช้น้ำมันดิบ 351,000 บาร์เรลเพื่อผลิตไฟฟ้าในเดือนมี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 11% จากเดือนก.พ. ขณะที่ปริมาณการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 1.91 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว