"เราคิดว่าภายในสิ้นทศวรรษนี้ โลกจะต้องการน้ำมันใหม่จำนวน 25 ล้านบาร์เรลต่อวัน" เขากล่าว
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้ร่วงลงมากกว่า 40% นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว จากการที่สหรัฐผลิตน้ำมันจำนวนมากจาก shale oil และจากภาวะอุปสงค์ที่ซบเซา
เชลล์คาดการณ์ว่า ในระยะยาว ความจำเป็นในการสำรองน้ำมันเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยผลักดันการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ดี มุมมองของเชลล์แตกต่างจากบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยบีพีมองว่าราคาน้ำมันจะยังคงปรับตัวต่ำลงต่อไปเป็นเวลายาวนานขึ้น ขณะที่โททาลระบุว่าทางบริษัทจะดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อให้มีกำไรจากราคาน้ำมันที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล