รายงานระบุว่า ความขัดแย้งดังกล่าวจะทำให้ภาวะน้ำมันล้นตลาดยิ่งมีความรุนแรงขึ้นในปีนี้ ขณะที่อิหร่านจะกลับมาเดินหน้าส่งออกน้ำมัน หลังจากที่ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
ขณะนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ผลิตน้ำมันเกินโควตาราว 1 ล้านบาร์เรลในแต่ละวัน แม้ว่าราคาน้ำมันได้ดิ่งลงกว่า 60% นับตั้งแต่กลางปี 2557
ทางการคูเวตเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับจากอิหร่าน หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีสถานทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงเตหะราน และสถานกงสุลในเมืองมาชฮัด ระหว่างที่กลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านได้ออกมาประท้วงซาอุดิอาระเบียที่ได้ประหารชีวิตนักโทษคดีก่อการร้าย 47 ราย รวมถึง นิมร์ อัลนิมร์ นักบวชนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2554
"เหตุการณ์โจมตีนี้ถือเป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และสวนทางกับคำยืนยันของอิหร่านในการรักษาความปลอดภัยสำหรับหน่วยงานด้านการทูตในประเทศ" แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศคูเวตกล่าว
การดำเนินการของคูเวตมีขึ้น หลังซาอุดิอาระเบีย และบาห์เรนประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ส่วนซูดานประกาศขับนักการทูตอิหร่านออกจากประเทศ และเรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงเตหะรานกลับประเทศ