ผู้เชี่ยวชาญของอิหร่านมองว่า การกระทำของซาอุดิอาระเบียเป็นการแข่งขันกับอิหร่าน ซึ่งกำลังกลับเข้าขายน้ำมันในตลาดโลก หลังชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
ทางการคูเวตเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับจากอิหร่าน หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีสถานทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงเตหะราน และสถานกงสุลในเมืองมาชฮัด ระหว่างที่กลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านได้ออกมาประท้วงซาอุดิอาระเบียที่ได้ประหารชีวิตนักโทษคดีก่อการร้าย 47 ราย รวมถึง นิมร์ อัลนิมร์ นักบวชนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2554
"เหตุการณ์โจมตีนี้ถือเป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และสวนทางกับคำยืนยันของอิหร่านในการรักษาความปลอดภัยสำหรับหน่วยงานด้านการทูตในประเทศ" แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศคูเวตกล่าว
การดำเนินการของคูเวตมีขึ้น หลังซาอุดิอาระเบีย และบาห์เรนประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ส่วนซูดานประกาศขับนักการทูตอิหร่านออกจากประเทศ และเรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงเตหะรานกลับประเทศ