รายงานดังกล่าวเปิดเผยว่า บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง CNPC, Sinopec และ CNOOC จะได้รับผลประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว เนื่องจากสามารถทำกำไรจากการกลั่นน้ำมันได้มากขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบเชิงลบจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบที่ส่งผลต่ออุตสหกรรมการสำรวจและผลิตระดับต้นน้ำของบริษัท
มูดีส์คาดการณ์ว่า Sinopec จะได้รับประโยชน์มากสุดจากนโยบายดังกล่าว เนื่องจากธุรกิจกลั่นน้ำมันของบริษัทรายนี้มีขนาดใหญ่สุดเมื่อเทียบกับรายอื่นๆในแง่ของปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบ ขณะที่ธุรกิจการผลิตภาคต้นน้ำมีขนาดเล็กกว่าในแง่ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ
แม้ว่าราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงนั้นเอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจจีน แต่มูดีส์มองว่า แนวโน้มเช่นนี้จะสร้างความเสียหายต่อศักยภาพของผู้ผลิตน้ำมันของจีนในด้านการรักษากำลังผลิตและฝ่าฟันภาวะการขาดแคลนน้ำมัน
มูดีส์ยังกล่าวด้วยว่า การที่จีนต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันในสัดส่วนสูงถึง 60% นั้นจะกลายเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกด้านความมั่นคงทางพลังงานสำหรับรัฐบาลจีน หากกำลังการผลิตภายในประเทศทรุดฮวบลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ มูดีส์ระบุว่า "การกำหนดฐานราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจะช่วยบรรเทาปริมาณการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน" สำนักข่าวซินหัวรายงาน