ซาอุดิอาระเบียประกาศจัดตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Fund) มูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะรองรับผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้ซาอุดิอาระเบียเผชิญภาวะขาดดุลงบประมาณเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับวิกฤตราคน้ำมัน รัฐบาลซาอุดิอาระเบียจึงตัดสินใจยกเลิกนโยบายอุดหนุนน้ำมันสำหรับการอุปโภคและการบริการอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมไฟฟ้าและน้ำประปา
นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียยังคงย้ำว่า ซาอุดิอาระเบียจะไม่ตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากว่าอิหร่านและประเทศอื่นๆจะปฏิบัติตาม
ภาวะเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียยังคงได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ โดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ระดับต่ำกำลังส่งผลกระทบต่อซาอุดิอาระเบีย และก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสินเชื่อในระบบการเงิน
ทั้งนี้ มูดี้ส์ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารของซาอุดิอาระเบีย จาก "มีเสถียรภาพ" สู่ "เชิงลบ" เมื่อช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การปรับลดดังกล่าวสะท้อนถึงการคาดการณ์ของมูดี้ส์ที่ว่า ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง และการใช้จ่ายของรัฐบาลที่ลดลง จะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารของซาอุดิอาระเบีย
นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังคาดว่า เศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียจะชะลอตัวลง สู่ระดับ 1.5% ในปีนี้ และ 2% ในปีหน้า และคาดว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 33 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 38 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า