สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะยังคงอ่อนตัวลงต่อไปในปีนี้
ทั้งนี้ IEA ระบุในรายงานประจำเดือนเม.ย.ในวันนี้ว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะลดลงสู่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ต่ำกว่าระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันของปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในจีน, สหรัฐ และยุโรป
IEA ชี้ว่า การชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศดังกล่าวเกิดจากกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมที่เบาบางลง และสภาพอากาศที่อบอุ่นในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาในกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ขณะที่จีนผลักดันให้การบริโภคเป็นปัจจัยผลักดันการขยายตัว แทนที่ภาคการผลิต
อย่างไรก็ดี IEA เปิดเผยว่า อินเดียจะขึ้นมาแทนที่จีนในฐานะตัวจักรหนุนการเติบโตของอุปสงค์น้ำมัน โดย IEA เปิดเผยว่า อุปสงค์น้ำมันของอินเดียในช่วงปลายปีที่แล้ว และต้นปีนี้มีการขยายตัว 8% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ตลอดทั้งปีนี้ อินเดียจะมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นราว 300,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ IEA ยังเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ลดลงในเดือนมี.ค.สู่ระดับ 32.47 ล้านบาร์เรล/วัน โดยได้รับผลกระทบจากการผลิตที่ลดลงในไนจีเรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ และอิรัก แม้ว่าอิหร่านและอังโกลามีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นก็ตาม