สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จำเป็นต้องดำเนินการปรับลดการผลิตน้ำมันอย่างที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้าโดยเร็ว เพื่อหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
IEA ระบุว่า เดือนก.ย.ที่ผ่านมากลุ่มโอเปกมีการผลิตน้ำมันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ประเทศนอกกลุ่มโอเปกอย่างรัสเซียก็มีการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันเกินความต้องการของตลาดโลก ซึ่งคาดว่าภาวะน้ำมันล้นตลาดจะยืดเยื้อไปจนถึงช่วงกลางปี 2560 หากไม่มีการปรับลดกำลังผลิต
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอลจีเรียเมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติปรับลดการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับ 32.5-33 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ล่าสุดนายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขามีความมั่นใจว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 30 พ.ย.
นอกจากนี้ นายอัล-ฟาลีห์กล่าวว่า เขาจะพบปะกับนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.น้ำมันรัสเซีย ในการประชุมด้านพลังงานที่กรุงอิสตันบูลในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือกับรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีการตกลงกันในการประชุมเดือนที่แล้ว
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในวันนี้ที่กรุงอิสตันบูลว่า รัสเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตน้ำมันกับกลุ่มโอเปก