ธนาคารโลก หรือ เวิล์ดแบงก์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปีหน้า อันเนื่องมาจากสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีแนวโน้มที่จะปรับลดกำลังการผลิต
ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานวิเคราะห์ภาพรวมภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประจำไตรมาสของธนาคารโลกฉบับล่าสุด โดยระบุว่า ราคาน้ำมันดิบในปี 2560 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก.ค. ที่ระดับ 53 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายจอห์น บาฟส์ หัวหน้าผู้จัดทำรายงานฉบับดังกล่าว กล่าวว่า "เราคาดว่าราคาพลังงาน ซึ่งรวมถึงราคาน้ำมันนั้น จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีหน้า โดยการคาดการณ์ครั้งนี้พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่กลุ่มโอเปกจะดำเนินการปรับลดกำลังการผลิต
รายงานยังระบุด้วยว่า แม้โอเปกมีความพยายามที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน แต่ตลาดน้ำโลกอาจได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่สูงขึ้นจากแหล่งผลิตอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึงอุตสาหกรรมน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐ
ทั้งนี้ สมาชิกโอเปกได้ทำข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอลจีเรียเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยปรับลดการผลิตลงสู่ระดับ 32.5 - 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน และโอเปกจะจัดการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ย.นี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหาข้อสรุปถึงแนวทางว่าจะดำเนินการตามแผนการลดการผลิตอย่างไร
นอกจากนี้ รายงานของธนาคารโลกยังระบุด้วยว่า ราคาพลังงาน ซึ่งรวมถึงน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน จะปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 25% ตลอดทั้งปีหน้า ขณะที่ราคาโลหะและแร่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น 4.1% ส่วนราคาสินค้าเกษตรน่าจะปรับตัวสูงขึ้น 1.4% ในปี 2560
"ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคามีแนวโน้มดีดตัวขึ้น" นายไอฮาน โคส ผู้อำนวยการกลุ่มสำรวจพัฒนาการของเวิลด์แบงก์ กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน