อินโดนีเซียตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพรายใหญ่ที่สุดของโลกภายในระยะเวลา 8 ปีข้างหน้า พร้อมเชิญชวนต่างประเทศให้เข้าร่วมลงทุนเพื่อเป็นการสนับสนุนให้อินโดนีเซียสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้
นายโรนี ชานดรา ฮาราฮัพ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนพลังงานความร้อนใต้พิภพเปิดเผยต่อสำนักข่าวเกียวโดว่า การไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นเป็นเรื่องที่น่าท้าทาย
รัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า อินโดนีเซียมีศักยภาพในการผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพได้ถึง 29.5 กิกะวัตต์ อย่างไรก็ดี ขณะนี้อินโดนีเซียสามารถผลิตได้เพียง 5% ของตัวเลขดังกล่าว
ปัจจุบัน อินโดนีเซียสามารถผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพได้ประมาณ 1,600 เมกะวัตต์ จาก 11 พื้นที่ และตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกในปี 2561 แซงหน้าฟิลิปปินส์ ด้วยตัวเลขการผลิตราว 2,020 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายต่อไปที่จะผลิตพลังงานให้ได้ 7,241.5 เมกะวัตต์ พร้อมแซงหน้าสหรัฐอเมริกาขึ้นเป็นผู้ผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพรายใหญ่ที่สุดของโลกภายในปี 2568
นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังหวังด้วยว่า การใช้พลังงานความร้อนใต้ภิภพจะคิดเป็นสัดส่วน 7% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในประเทศภายในปี 2568 อีกทั้งยังได้คาดการณ์ว่า การใช้พลังงานทดแทนภายในประเทศจะพุ่งขึ้นจาก 5% เป็น 31% ภายในปี 2568