โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศอื่นๆ เช่น รัสเซีย กำลังเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ตลาดจะเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาดต่อไปในปีหน้า
"การขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนจะทำให้สต็อกน้ำมันของกลุ่มประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) กลับสู่ภาวะปกติในต้นปี 2018 และเรามองเห็นความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดอีกในปีหน้า ถ้าหากโอเปกและรัสเซียกลับมาเพิ่มการผลิต และสหรัฐเพิ่มการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil)"
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า เพื่อให้สามารถควบคุมราคาได้ โอเปกและรัสเซียควรขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต หรือปรับลดการผลิตมากขึ้น จนกว่าสต็อกน้ำมันจะกลับสู่ภาวะปกติ และเพิ่มการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้สต็อกน้ำมันมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีราคาอยู่ที่ระดับ 57 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้
โอเปกจะจัดการประชุมในวันที่ 25 พ.ค. เพื่อพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปเกินกว่าเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อลดปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาด