สื่อสหรัฐรายงานว่า อิทธิพลของพายุฮาร์วีย์ยังคงสร้างความเสียหายในรัฐเท็กซัสและลุยเซียนาของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน สืบเนื่องจากสหรัฐต้องระงับการกลั่นน้ำมันดิบในสองมลรัฐดังกล่าว คิดเป็นปริมาณ 3.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือเกือบ 1 ใน 5 ของปริมาณการกลั่นน้ำมันทั้งประเทศ
รายงานระบุว่า ผลพวงจากการที่โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของสหรัฐได้ปิดการทำงานชั่วคราว ทำให้อุปทานน้ำมันเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน ที่ส่งผ่านระบบท่อส่งต่างๆ ในสหรัฐมีปริมาณลดน้อยลง นอกจากนี้ สหรัฐยังเตรียมที่จะปิดท่อส่งน้ำมันในระบบท่อส่ง "เอ็กซ์พลอเรอร์ ไปป์ไลน์" จากรัฐเท็กซัสไปยังชิคาโกจำนวน 2 เส้น ตั้งแต่วันนี้ตามเวลาสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากสถานการณ์น้ำท่วมในสองรัฐดังกล่าวทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อาจทำให้สหรัฐจำเป็นต้องปิดการทำงานของโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นอีก หลังจากที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบนซินได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ รัฐที่ตั้งอยู่ริมอ่าวเม็กซิโก ซึ่งประกอบด้วยรัฐเท็กซัส ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี แอละแบมา และฟลอริดานั้น มีปริมาณการกลั่นน้ำมันคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ โดยที่รัฐเท็กซิสมีการกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 5.6 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัฐลุยเซียนามีปริมาณการผลิตที่ 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน