นักวิเคราะห์ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน อาจกระทบต่อความร่วมมือกันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด
"ความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ซึ่งแม้สิ่งนี้เป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาน้ำมันในตอนนี้ แต่ก็จะสั่นคลอนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโอเปก และจะส่งผลให้โอเปกยกเลิกข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตก่อนกำหนด" นายนิเตช ชาห์ นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของอีทีเอฟ ซีเคียวริตีส์ กล่าว
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในเยเมนเปรียบเสมือนการทำสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน โดยซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีอับดราบูห์ มันซูร์ ฮาดี แต่อิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏฮูตีที่มีความจงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ โดยกลุ่มกบฏฮูตีได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงริยาดห์ของซาอุดิอาระเบีย ขณะที่ซาอุดิอาระเบียได้ยิงสกัดขีปนาวุธดังกล่าว
ที่ประชุมโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย เห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว เพื่อผลักดันราคาน้ำมันในตลาดให้ดีดตัวขึ้น และต่อมามีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีกำหนดจัดการประชุมในเดือนหน้าเพื่อทบทวนมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน