นายราวีช กุมาร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แถลงว่า อินเดียจะใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อให้บรรลุความต้องการด้านพลังงาน และความสำคัญอันดับหนึ่งของอินเดียคือการรับประกันความมั่นคงด้านพลังงาน
คำกล่าวของนายกุมารบ่งชี้ว่า อินเดียจะไม่ลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน แม้ว่าสหรัฐขู่ที่จะทำการคว่ำบาตร
นางนิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติ เดินทางเยือนอินเดียในวันนี้ โดยได้แสดงความต้องการให้อินเดียลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน เหลือ 0 บาร์เรลภายในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี นายกุมารกล่าวว่า อินเดียจะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงการดำเนินการร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้บรรลุความต้องการใช้พลังาน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์ระบุว่า อินเดียได้ดำเนินการตามมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ มิใช่มาตรการซึ่งตั้งขึ้นโดยประเทศใดประเทศหนึ่ง
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐรายหนึ่งชี้แจงในวันนี้ว่า สหรัฐจะทำการติดต่อประเทศต่างๆเกี่ยวกับการปรับลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน โดยบางประเทศอาจไม่จำเป็นต้องระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านโดยสิ้นเชิง
"เป้าหมายของเราคือการทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ เพื่อให้มีจำนวนประเทศมากที่สุดที่จะลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านจนเหลือ 0 บาร์เรลภายในเดือนพ.ย. แต่เราจะพิจารณาเป็นรายกรณี" เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมัน ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ วันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
ขณะนี้ อิหร่านส่งออกน้ำมันมากกว่า 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)