Securing America's Future Energy (SAFE) ซึ่งเป็นสถาบันวิชาการที่สนับสนุนให้สหรัฐลดการพึ่งพาพลังงานน้ำมัน รายงานว่า สหรัฐได้ใช้จ่ายทางทหารเป็นจำนวนเงิน 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละปี เพื่อให้การคุ้มครองการขนส่งน้ำมันทั่วโลก รวมทั้งการนำน้ำมันมาสู่สถานีบริการน้ำมันของสหรัฐ
SAFE ระบุว่า ตัวเลข 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นตัวเลขขั้นต่ำ โดยยังไม่รวมค่าใช้จ่ายของสหรัฐในการทำสงคราม 15 ปีในอิรัก
นอกจากนี้ SAFE เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้อุดหนุนราคาน้ำมันดิบจำนวน 11.25 ดอลลาร์/บาห์เรล และให้การอุดหนุนราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลจำนวน 28 เซนต์/แกลลอน
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะต้องปรับลดราคาน้ำมันลง เนื่องจากกองทัพสหรัฐได้ให้การปกป้องการขนส่งน้ำมันในภูมิภาคดังกล่าว
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า หลายประเทศในตะวันออกกลางกำลังผลักดันให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น แม้ได้รับประโยชน์จากการที่กองทัพสหรัฐให้การคุ้มกัน
"เราได้ปกป้องประเทศในตะวันออกกลาง โดยพวกเขาจะปลอดภัยได้ไม่นาน หากปราศจากพวกเรา แต่พวกเขายังคงผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เราจะจำไว้ โอเปก ซึ่งเป็นกลุ่มผูกขาด จะต้องทำให้ราคาน้ำมันลดลงเดี๋ยวนี้" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ