การประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอลจีเรียเมื่อวานนี้ เห็นพ้องให้คงปริมาณการผลิตเอาไว้ที่ระดับปัจจุบัน แม้สหรัฐพยายามเรียกร้องให้โอเปกเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันก็ตาม
นายซูเฮล โมฮัมหมัด อัล มัสรูอี ประธานการประชุม JMMC กล่าวว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในปัจจุบันนั้น มีเพียงพอต่อการรักษาตลาดน้ำมันโลกให้อยู่ในภาวะสมดุลได้ พร้อมระบุว่า โอเปกสามารถควบคุมและรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันโลกในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ การเพิ่มหรือลดปริมาณการผลิตจึงไม่มีความจำเป็น
นายมัสรูอีกล่าวว่า ข้อตกลงที่ได้ลงนามร่วมกันระหว่างโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกนั้น ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการกระตุ้นราคาน้ำมัน และเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน นอกจากนี้ นายมัสรูอียังได้แสดงความคาดหวังว่า โอเปกจะสามารถโน้มน้าวประเทศผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายประเทศให้เข้าร่วมในข้อตกลงดังกล่าว เพื่อช่วยให้ตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะสมดุลอย่างยั่งยืน
ในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันต่างก็แสดงท่าทีปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ที่ต้องการให้โอเปกเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน โดยนายมัสรูอีซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยนั้น กล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดของโอเปกไม่ใช่เพิ่มราคาหรือกดราคาน้ำมัน แต่เพื่อให้ตลาดอยู่ในภาวะสมดุลตามเป้าหมาย
ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียกล่าวว่า "การคว่ำบาตรและสงครามการค้าซึ่งชาติมหาอำนาจบางประเทศได้นำมาใช้นั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดน้ำมัน"
ทางด้านนายกาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า "ไม่มีการทำข้อตกลงเพิ่มการผลิต และราคาน้ำมันที่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือเป็นระดับราคาที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งกลุ่มผู้ผลิตและกลุ่มผู้บริโภค"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการ JMMC ครั้งล่าสุดซึ่งมีซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเป็นประธานร่วมนั้น ประกอบไปด้วย 4 ชาติสมาชิกโอเปก ซึ่งได้แก่ แอลจีเรีย ซาอุดิอาระเบีย คูเวต และเวเนซุเอลา รวมทั้ง 2 ประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งได้แก่ รัสเซีย และโอมาน
อย่างไรก็ดี ผลการประชุมโอเปกและพันธมิตรเมื่อวานนี้ ไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปก เนื่องจากนโยบายดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติในการประชุมพิเศษ แต่ขณะนี้โอเปกยังไม่มีวาระจัดการประชุมดังกล่าว