เจพีมอร์แกนออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งใกล้ระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงหลายเดือนข้างหน้า จากการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่าน
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ราคาสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ และ WTI จะแตะระดับเฉลี่ย 85 ดอลลาร์ และ 76 ดอลลาร์ตามลำดับในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ส่วนนายเฟอเรดุน เฟชาราคิ ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัทแฟคส์ โกลบัล เอเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา กล่าวก่อนหน้านี้ว่า มาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมพลังงานของอิหร่าน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557
"ถ้าหากไม่มีมาตรการคว่ำบาตร ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่า แต่แนวโน้มการคว่ำบาตรจะเกิดขึ้นจริง และจะเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือน สิ่งนี้จะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดพุ่งขึ้น โดยรัฐบาลทรัมป์สมควรถูกตำหนิจากการทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น" นายเฟชาราคิกล่าว
ข้อมูลระบุว่า การส่งออกน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มได้ปรับตัวลงในเดือนส.ค. อันเนื่องจากการลดลงของการส่งออกน้ำมันจากอิหร่าน
การส่งออกน้ำมันของอิหร่านได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ซื้อน้ำมันพากันลดคำสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่าน ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน โดยสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล