นายฟรานซิส แฟนนอน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐจะให้ความช่วยเหลือเกาหลีใต้ในการหาแหล่งนำเข้าน้ำมันแห่งใหม่เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน
นายแฟนนอนได้ให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวกับสำนักข่าวยอนฮัป หลังจากที่สหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศที่ได้รับการผ่อนผันให้นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน 8 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ตุรกี อิตาลี และกรีซ ไม่สามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้ต่อไปหลังจากวันที่ 1 พ.ค. ที่จะถึงนี้
นายแฟนนอนกล่าวว่า การตัดสินใจให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐได้หารือมาเป็นเวลาหนึ่งปีกับเกาหลีใต้และประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายอื่นๆ พร้อมยืนยันว่า สหรัฐปฏิบัติกับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน
นายแฟนนอนระบุว่า "ผมคิดว่าสหรัฐและเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อกัน ผมบอกได้ว่า เราหารือเรื่องการมอบความช่วยเหลือแก่เกาหลีใต้มาตลอดระยะเวลาหนึ่งปีมานี้ และการหารือดังกล่าวจะดำเนินต่อไป เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่สำคัญในหลายๆ ด้านนอกเหนือไปจากเรื่องนี้"
คำสั่งยกเลิกผ่อนผันนำเข้าน้ำมันอิหร่านมีขึ้น หลังเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว สหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยมีผลต่อภาคธุรกิจพลังงาน ธนาคาร การต่อเรือ และการเดินเรือ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ รวมทั้งยุติการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้เป็นเวลา 6 เดือน โดยประเทศดังกล่าว ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ตุรกี อิตาลี และกรีซ
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า "เราจะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเหลือศูนย์ เราจะไม่ให้การผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านหลังวันที่ 2 พ.ค." โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
คำสั่งยกเลิกผ่อนผันนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกดดันเพื่อให้อิหร่านล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ และตัดแหล่งเงินทุนที่สหรัฐอ้างว่าถูกนำไปใช้เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านที่มีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับน้ำมันประเทศอื่นๆ เพื่อนำมาใช้ในการผลิตสินค้าเคมีภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ นอกเหนือไปจากเซมิคอนดักเตอร์