สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยข้อมูลระบุว่า สหรัฐเป็นผู้ส่งออกสุทธิสำหรับน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ที่เพิ่มขึ้น
การส่งออกน้ำมันของสหรัฐในเดือนก.ย.สูงกว่าการนำเข้า 89,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งทำให้สหรัฐเป็นผู้ส่งออกสุทธิรายเดือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐเริ่มเก็บข้อมูลในปี 2492
EIA คาดว่า แนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินต่อไป โดยคาดว่า สหรัฐจะเป็นประเทศผู้ส่งออกสุทธิสำหรับน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปี 2563 ด้วย
การส่งออกน้ำมันของสหรัฐในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบรายปี สู่ราว 8.76 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่การนำเข้าลดลง 12% สู่ราว 8.67 ล้านบาร์เรล
การส่งออกน้ำมันของสหรัฐขยายตัวอย่างรวดเร็ว หลังสหรัฐได้ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2561 เป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปี โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานที่เพิ่มขึ้น และบทบาทที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐในฐานะผู้ส่งออกพลังงานระดับโลก จะเพิ่มแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในรายงานคาดการณ์แนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) ที่มีการเผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้นั้น EIA คาดการณ์ว่า การส่งออกสุทธิโดยเฉลี่ยของผลิตน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปี 2563 จะอยู่ที่ 750,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปริมาณการนำเข้าสุทธิเฉลี่ยที่ 520,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2562