บริษัทออลซีส์ของสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยว่า บริษัทได้ระงับการดำเนินงานในโครงการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติระหว่างรัสเซีย-เยอรมนีแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่บรรจุอยู่ในกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National Defense Authorization Act หรือ NDAA) ประจำปี 2563 ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเพิ่งลงนามอนุมัติในวันศุกร์
การที่บริษัทออลซีส์ระงับการดำเนินงานดังกล่าวทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่โครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ดังกล่าวจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแผนการของรัสเซียที่จะขยายการขายก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปอย่างรวดเร็วผ่านท่อส่งดังกล่าว โดยรัสเซียได้ระบุก่อนหน้านี้ว่า โครงการดังกล่าวพร้อมเปิดทำการภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ทั้งนี้ ออลซีส์ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและการวางท่อใต้ทะเลนั้น มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างโครงการท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ไปยังเยอรมนี ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นของบริษัทก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงานของรัฐบาลรัสเซีย
ออลซีส์เปิดเผยแถลงการณ์ว่า บริษัทได้ระงับการดำเนินงานในโครงการ Nord Stream 2 แล้ว เนื่องจากคาดว่าสหรัฐอาจจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่บรรจุอยู่ในกฎหมาย NDAA
ออลซีส์ระบุว่า บริษัทจะดำเนินการให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย และคาดว่าจะมีคำแนะนำซึ่งประกอบด้วยการชี้แจงด้านกฎระเบียบ, ทางเทคนิค และสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐ
กฎหมาย NDAA ของสหรัฐประกอบด้วยมาตราที่กำหนดให้มีการคว่ำบาตรบริษัทต่างๆ ที่ทำการวางท่อก๊าซให้กับโครงการดังกล่าว และ เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐแจ้งรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวภายใน 60 วันเพื่อดำเนินการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ สหรัฐและหลายประเทศในยุโรปคัดค้านการวางท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ใต้ทะเลบอลติก เนื่องจากวิตกว่า ท่อส่งก๊าซใหม่อาจเป็นเครื่องมือที่รัสเซียใช้กดดันประเทศเพื่อนบ้านทางการเมืองและเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น เพราะรัสเซียจะสามารถหยุดการส่งก๊าซให้กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาขัดแย้งกันได้โดยที่ไม่กระทบต่อการส่งพลังงานไปยังยุโรปตะวันตก จากเดิมที่ต้องขนส่งก๊าซผ่านท่อในยูเครน