นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลาง
"เราคาดว่าสหรัฐและอิหร่านจะปะทะกันเป็นเวลาราว 1 เดือน และมีแนวโน้มจำกัดวงในอิรัก โดยกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านจะโจมตีฐานทัพสหรัฐ และทหารสหรัฐบางนายจะเสียชีวิต ขณะที่สหรัฐจะทำการโจมตีภายในอิรัก"
"ราคาน้ำมันจะดีดตัวแตะ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่อาจพุ่งถึง 80 ดอลลาร์ ถ้าความขัดแย้งดังกล่าวลุกลามไปยังแหล่งน้ำมันทางใต้ของอิรัก หรือหากอิหร่านขัดขวางการขนส่งทางเรือในบริเวณดังกล่าว" นักวิเคราะห์จากยูเรเซีย กรุ๊ป ระบุ
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดดออกแถลงการณ์ในวันนี้เตือนให้ชาวอเมริกันเดินทางออกจากอิรักโดยทันที หลังจากที่สหรัฐได้ใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรักในช่วงเช้าวันนี้
การโจมตีของสหรัฐได้ส่งผลให้นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบี (Hashd Shaabi) ของอิรัก เสียชีวิต
แถลงการณ์ระบุว่า "เนื่องจากมีความตึงเครียดมากขึ้นในอิรักและในภูมิภาค ทางสถานทูตจึงขอเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเดินทางออกจากอิรักโดยทันที โดยควรเดินทางด้วยเครื่องบินหากเป็นไปได้ มิฉะนั้น ควรเดินทางไปยังประเทศอื่นโดยใช้เส้นทางบก"
แถลงการณ์ยังแนะนำให้ชาวอเมริกันงดเว้นการเดินทางมายังอิรัก และหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังบริเวณสถานทูตสหรัฐ รวมทั้งให้ติดตามข่าวสารจากสื่อทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ทางด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐ ขณะที่นายอาเดล อับดุล มาห์ดี รักษาการนายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวประณามการโจมตีดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อรัฐบาลและชาวอิรัก