นักวิเคราะห์ของ Eurasia Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงเปิดเผยกับ CNN Business ว่า ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้นถึงระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากความขัดแย้งครั้งใหม่ในตะวันออกกลางลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอิรัก หรือส่งผลกระทบกับการขนส่งน้ำมันทางเรือในอ่าวเปอร์เซีย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นท่ามกลางความวิตกว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะกระทบการผลิตน้ำมันและปริมาณน้ำมันในตลาดโลก หลังสหรัฐได้ใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรักในช่วงเช้าวันศุกร์ ส่งผลให้นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบี (Hashd Shaabi) ของอิรัก เสียชีวิต
ด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐ ขณะที่นายอาเดล อับดุล มาห์ดี รักษาการนายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวประณามการโจมตีดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการแสดงความก้าวร้าวกับรัฐบาลและชาวอิรัก
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของอิรักร่วงลงหลังกองทัพที่นำโดยสหรัฐบุกอิรักในปี 2556 แต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การผลิตได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนแตะระดับ 4.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปลายปี 2562
นักวิเคราะห์ของ Energy Aspects ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยของอังกฤษระบุว่า หากการผลิตน้ำมันทางภาคใต้ของอิรักได้รับผลกระทบ ก็เป็นการยากที่จะหาน้ำมันทดแทน เนื่องจากน้ำมันดิบของอิรักหนักกว่าน้ำมันดิบในรูปแบบอื่นๆ ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันทางเลือก ก็ได้ถูกปรับลดลงอย่างมาก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การขนส่งน้ำมันราว 20 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่องแคบฮอร์มุซอาจถูกคุกคามจากการตอบโต้ของอิหร่าน โดยเมื่อปีที่แล้ว มีการโจมตีเรือ 2 ลำในช่องแคบโอมานซึ่งลำหนึ่งบรรทุกน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงเวลานั้น
ด้านนักวิเคราะห์ของ Bernstein ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนของสหรัฐเปิดเผยว่า มีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจช่วยหนุนราคาน้ำมันด้วย อาทิ การผลิตน้ำมัน shale oil ที่ชะลอลงในสหรัฐ และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศลดการผลิตน้ำมันลงอีกในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลาก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว ในขณะที่ประเทศยังคงเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม Bernstein ได้กำหนดเป้าหมายราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ไว้ที่ระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว และระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับแนวโน้มราคาน้ำมันในตอนนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำมันยังไม่ได้รับผลกระทบ