โรงไฟฟ้าถ่านหินในสหรัฐแห่ปิดกิจการ แม้ได้รับการสนับสนุนจาก "ทรัมป์"

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 14, 2020 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า มีโรงงานไฟฟ้าถ่านหินของสหรัฐปิดกิจการเป็นจำนวนมากในปี 2562 แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ก็ตาม

EIA รายงานว่า บริษัทผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ซึ่งมีกำลังผลิตรวมกันราว 15,100 เมกกะวัตต์ (MW) และจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับ 15 ล้านครัวเรือนนั้น ได้ปิดกิจการลง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดอันดับสอง รองจากการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังผลิตรวม 19,300 MW เมื่อปี 2558 ในสมัยรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา

ทั้งนี้ การผลิตไฟฟ้าพลังงานถ่านหินได้ถูกแทนที่ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน

อุตสาหกรรมถ่านหินตกต่ำลงอย่างรุนแรงมานานนับ 10 ปี โดยได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของก๊าซที่มีปริมาณมากและราคาถูก รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ประกอบกับการที่ภาคสาธารณะมีความใส่ใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านหิน

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์กลับไม่ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และได้พยายามที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมถ่านหินเพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในระหว่างการหาเสียงจากรัฐที่ทำธุรกิจเหมืองถ่านหิน เช่น เวสต์เวอร์จิเนียร์ และ ไวโอมิ่ง แต่ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าการสนับสนุนของทรัมป์ก็ยังไม่สามารถช่วยพยุงอุตสาหกรรมได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ