บริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ปอเรชั่น (NOC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของรัฐบาลลิเบีย ประกาศภาวะสุดวิสัย (force majeure) ด้านการส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือ 5 แห่งภายในประเทศ หลังจากกองกำลังแห่งชาติลิเบียได้สั่งปิดท่าเรือดังกล่าว
ทั้งนี้ ภาวะสุดวิสัย เป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ข้อพิพาทด้านแรงงาน การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แถลงการณ์ของ NOC ระบุว่า "กองกำลังแห่งชาติลิเบียได้สั่งการให้หน่วยงานในเครือของ NOC ระงับการส่งออกน้ำมันจากท่าเรือเบรกา, ท่าเรือราส ลานุฟ, ท่าเรือฮาริกา, ท่าเรือซูอีตินา และท่าเรือซีดรา ซึ่งการปิดท่าเรือเหล่านี้ส่งผลให้ลิเบียสูญเสียการผลิตน้ำมันดิบในปริมาณ 800,000 บาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายมุสตาฟา ซานาลลา ประธาน NOC เตือนว่า การปิดท่าเรือจะส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกน้ำมัน และจะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของลิเบียร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อลิเบีย
ทางด้านโฆษกของ NOC กล่าวว่า นับตั้งแต่ตุรกีส่งกองกำลังทหารเข้ามายังลิเบีย ก็ทำให้เกิดปฏิกริยารุนแรงภายในประเทศ โดยประชาชนจำนวนมากได้ออกมาชุมนุนประท้วงการกระทำดังกล่าวของตุรกี