สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงพลังงานจีนว่า ความต้องการน้ำมันในจีนได้ปรับตัวลดลงถึง 20% หรือประมาณวันละ 3 ล้านบาร์เรล โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนได้สั่งปิดเมืองอู่ฮั่นไม่ให้มีการเดินทางเข้าออก และเมืองอื่น ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดลงทั้งรถยนต์และเครื่องบิน
ความต้องการที่ร่วงลงอย่างหนักนี้ อาจส่งผลให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เลื่อนการประชุมให้เร็วขึ้นเป็นเดือนก.พ. จากกำหนดเดิมในเดือนมี.ค. โดยแหล่งข่าวจากโอเปกระบุว่า ผู้ผลิตน้ำมันอาจเสนอให้มีการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปถึงเดือนมิ.ย. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมี.ค. และอาจมีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น หากอุปสงค์น้ำมันในจีนลดลงอย่างมากจากสาเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
จีนเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก ข้อมูลความต้องการน้ำมันในจีนจึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดน้ำมันโลก โดยจีนมีการใช้น้ำมันประมาณวันละ 14 ล้านบาร์เรล ซึ่งเทียบเท่ากับหลาย ๆ ประเทศพัฒนาแล้วรวมกัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงเมื่อวันศุกร์ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก หลังจากที่ไวรัสดังกล่าวได้แพร่กระจายจากจีนไปยังราว 20 ประเทศ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คนแล้ว
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก