สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทโบรกเกอร์หลายแห่ง รวมถึง TD Ameritrade Corp บริษัทโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้ห้ามไม่ให้ลูกค้าเปิดสถานะลงทุนใหม่ในการซื้อสัญญาน้ำมันดิบ หลังจากที่การเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาดิ่งลงสู่ระดับติดลบเกือบ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล
TD Ameritrade แจ้งกับบรรดาลูกค้าว่า บริษัทจะอนุญาตเฉพาะการสั่งปิดการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนมิ.ย.และก.ค. รวมถึงสัญญาออปชั่นน้ำมันดิบสหรัฐทั้งหมดเท่านั้น
เจ.บี. แมกเคนซี กรรมการผู้จัดการด้านฟิวเจอร์และปริวรรตเงินตราของ TD Ameritrade ระบุว่า ทางบริษัทได้ตัดสินใจห้ามเปิดสถานะซื้อสัญญาน้ำมันดิบใหม่ โดยพิจารณาจากความผันผวนและสภาพคล่องในตลาดน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการตัดสินใจนี้จะทำให้สภาพคล่องและความผันผวนของตลาดเหล่านั้น กลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น
นอกจากนี้ โบรกเกอร์อีก 2 แห่งซึ่งได้แก่ Marex Spectron ของอังกฤษ และ INTL FCStone ของสหรัฐ ได้เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้จำกัดการเปิดสถานะการลงทุนใหม่ในสัญญาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน หลังจากที่การซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบที่มีความผันผวนสูงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ถือครองสัญญาน้ำมันขาดทุนอย่างหนัก
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันฟิวเจอร์ของสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดและอุปสงค์ที่อ่อนแอลง โดยบรรดาผู้จัดการกองทุน และนักลงทุนรายย่อยที่ถือครองสัญญาน้ำมันดิบหลายพันบาร์เรลไม่สามารถหาสถานที่จัดเก็บน้ำมันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเทขายสัญญาออกมาก่อนการครบกำหนดส่งมอบ ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 55.90 ดอลลาร์ หรือ 306% ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากระดับปิดของวันศุกร์ที่ 18.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งหมายความว่าผู้ขายจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้ซื้อเพื่อรับมอบน้ำมัน
บรรดาโบรกเกอร์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ CME Group ซึ่งบริหารจัดการตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า ที่ปล่อยให้สัญญาน้ำมันดิบมีการซื้อขายกันในระดับราคาที่ติดลบ