สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกในปีนี้ จะทรุดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ IEA คาดว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกในปีนี้จะร่วงลง 6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงที่รุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี อันเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
IEA ระบุในรายงาน Global Energy Report ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกมีแนวโน้มทรุดตัวลงมากกว่าในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ถึง 7 เท่า
การคาดการณ์ดังกล่าวของ IEA ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า การผ่อนคลายคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะดำเนินไปอย่างช้าๆ ในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ดร.ฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของ IEA กล่าวว่า ตลาดพลังงานโลกกำลังเผชิญกับภาวะทรุดตัว เนื่องจากวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนั้น ได้ทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงเกือบทุกชนิดปรับตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ่านหิน, น้ำมัน และก๊าซ