สื่อต่างประเทศรายงานว่า นอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ได้เข้าร่วมกับกลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันต่างๆ ในการปรับลดการผลิตน้ำมันลงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบโลกทรุดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานมานี้
กระทรวงน้ำมันและพลังงานของนอร์เวย์เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า นอร์เวย์จะปรับลดการผลิตน้ำมันลง 250,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย. หรือมากกว่า 13% ของการผลิตทั้งหมดราว 1.86 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะลดการผลิตลง 134,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ นอร์เวย์เข้าร่วมลดการผลิตน้ำมันในตลาดโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 โดยนอร์เวย์มีข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการกับโอเปก และพันธมิตรที่จะช่วยหนุนตลาดน้ำมัน หลังจากที่ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างรุนแรง เพราะอุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิงร่วงลงอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันในตลาด NYMEX เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงการสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และห้ามเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ดิ่งลง 55.90 ดอลลาร์ หรือ 306% ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 8.94% ปิดที่ 25.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี