นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดได้ภายในปี 2565 เนื่องจากการเดินทางโดยยานพาหนะส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคจะเพิ่มขึ้นด้วย
นักวิเคราะห์เปิดเผยบทวิจัยเมื่อวานนี้ โดยประมาณการว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะลดลง 8% ในปี 2563 จากนั้นดีดตัวขึ้น 6% ในปี 2564 และฟื้นตัวอย่างเต็มที่สู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2565
ความต้องการน้ำมันเบนซินจะฟื้นตัวเร็วที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทต่างๆ อันเป็นผลจากกิจกรรมการเดินทางที่เพิ่มขึ้นโดยเปลี่ยนจากระบบขนส่งสาธารณะไปเป็นยานพาหนะส่วนตัว และจะมีการใช้รถยนต์เพิ่มขึ้นสำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ แทนการเดินทางโดยเครื่องบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐ ยุโรป และจีน
ส่วนความต้องการใช้น้ำมันดีเซลจะฟื้นตัวสู่ระดับของปี 2562 ได้ภายในปี 2564 โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาลต่างๆ ในโครงการสาธารณูปโภค
อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์ เตือนว่า ความต้องการใช้น้ำมันเครื่องบิน (jet fuel) ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤตโควิด-19 ระบาด โดยผู้บริโภคยังไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในการเดินทางโดยเครื่องบิน เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนต้านไวรัสโควิด และพฤติกรรมของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
ดังนั้น โกลด์แมนจึงคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันเครื่องบินจะยังไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิดอย่างน้อยที่สุดก่อนปี 2566
ทั้งนี้ โกลด์แมนได้คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันข้างต้น หลังจากที่ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นอย่างมากในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายไตรมาสมากที่สุดในรอบ 30 ปี โดยตลอดไตรมาส 2 ปีนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 92% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นราว 81%