นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าว CNBC ในวันศุกร์ว่า ราคาน้ำมันจะฟื้นตัวเล็กน้อยในปีหน้า เนื่องจากแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันยังคงอ่อนแอ ขณะที่พฤติกรรมทางธุรกิจและของประชาชนได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
"ผมคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวในช่วง 50-55 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่โกลด์แมน แซคส์คาดไว้ที่ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดจะมีความผันผวนทั้งขาขึ้นและขาลง" นายโนวัคกล่าว
ด้านโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ในตลาดโลกจะอยู่ที่ 65 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในไตรมาส 3 ของปีหน้า และราคาจะมีแนวโน้มขาขึ้นตลอดปี 2564 เนื่องจากสต็อกน้ำมันจะเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
นายโนวัคกล่าวว่า การฟื้นตัวของราคาน้ำมันในอนาคตจะชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสมดุลด้านพลังงาน และรูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภค
นายโนวัคระบุว่า การเดินทางเพื่อธุรกิจที่ลดลง และการเปลี่ยนไปใช้การประชุมผ่านระบบดิจิทัล และการทำงานจากที่บ้าน ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง โดยเขาคาดว่า อุปสงค์น้ำมันโดยรวมต่อปีอาจจะลดลงราว 9-10 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ เขายังคาดว่า ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นจากพลังงานสะอาด จะทำให้ราคาน้ำมันชะลอการฟื้นตัวในระยะยาวด้วย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 3% ในวันศุกร์ โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 42.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. และปิดร่วงลง 6.9% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้น และความวิตกเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมัน เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคโควิด-19