นายแดน บรุยแย็ตต์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐแสดงความคิดเห็นว่า มีโอกาสสูงที่ราคาน้ำมันจะพุ่งแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ปฏิเสธข้อเสนอการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต
"ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ไม่ยาก หรืออาจสูงกว่านั้น" นายบรุยแย็ตต์กล่าวกับผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ CNBC
อย่างไรก็ตาม นายบรุยแย็ตต์มองว่า มีความเป็นไปได้เช่นกันว่าราคาน้ำมันอาจดิ่งลงอย่างหนัก
"หากชาติสมาชิกโอเปกพลัสไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการผลิตน้ำมัน และผลิตน้ำมันตามความต้องการของตัวเอง ก็อาจทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักได้" นายบรุยแย็ตต์ระบุ โดยเขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสหรัฐในระหว่างปี 2562-2564
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในวันนี้ โดยราคาน้ำมัน WTI พุ่งทะลุ 76 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ทะยานขึ้นเหนือระดับ 77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลัสประกาศเลื่อนการประชุมโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากในการประชุมเมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) UAE ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอในขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงปลายปี 2565 นอกจากนี้ UAE ยังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการกำหนดระดับการผลิตขั้นต่ำ โดยหวังว่าจะทำให้โควต้าการผลิตน้ำมันของ UAE เพิ่มขึ้น
ทางด้านนายแดน เยอร์กิน รองประธานไอเอชเอส มาร์กิตและผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมน้ำมันเตือนว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเกิน 100 ดอลลาร์/บาร์เรลอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาด ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศต่างๆ
"ผมคิดว่าหลายประเทศเข้าใจดีว่าราคาน้ำมันระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลนั้นไม่เป็นผลดีต่อประเทศ" นายเยอร์กินกล่าว "หากเป็นเช่นนั้น เราคงได้เห็นรัฐบาลของนานาประเทศทุ่มงบประมาณสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงเห็นผลกระทบที่ราคาระดับดังกล่าวมีต่ออุปสงค์ในตลาด"