นายหลุยส์ ดิกสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทไรสแตด เอเนอร์จี กล่าวว่า ความขัดแย้งของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันอาจส่งผลให้ประเทศต่างๆพากันแข่งขันกันผลิตน้ำมันโดยไร้ข้อตกลงควบคุมกำลังการผลิต
อย่างไรก็ดี นายดิกสันกล่าวว่า ตลาดยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวสำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะในสหรัฐ ซึ่งราคาน้ำมันกำลังมีราคาแพงสำหรับผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ความล้มเหลวในการเจรจาของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้สร้างความไม่แน่นอนต่อนโยบายการผลิตน้ำมัน แต่โกลด์แมน แซคส์ยังคงคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะยังคงพุ่งแตะระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงต้นปีหน้า
ทั้งนี้ โอเปกพลัสได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดประชุมกันในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
รายงานระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียเสนอให้เพิ่มกำลังการผลิตรวม 2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยให้ทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค.2564 และขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตที่เหลือไปจนถึงปลายปี 2565
อย่างไรก็ดี UAE ได้คัดค้านข้อเสนอดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องมีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ในการกำหนดระดับการผลิตขั้นต่ำ เนื่องจาก UAE ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายน้ำมัน หลังจากที่ประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19