ยอดส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนปรับตัวลดลงในเดือนต.ค.หลังจากเพิ่งฟื้นตัวขึ้นเมื่อเดือนก่อนหน้า เนื่องจากบรรดาโรงกลั่นหันมาจัดส่งน้ำมันให้กับตลาดภายในประเทศมากขึ้น เพื่อชดเชยภาวะขาดแคลนอุปทานหลังจีนสั่งจำกัดการผลิตติดต่อกันหลายเดือน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีนระบุในวันนี้ว่า จีนได้ส่งออกน้ำมันดีเซลทั้งหมด 560,000 ตันในเดือนต.ค. ซึ่งปรับลดลง 74% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และปรับลงจาก 780,000 ตันในเดือนก.ย.
บรรดาโรงกลั่นจีนลดผลผลิตเชื้อเพลิงในไตรมาส 3 ลง เพราะมาตรการควบคุมโควิด-19 และเหตุอุทกภัยซ้ำซ้อน แต่ยอดการใช้งานน้ำมันดีเซลกลับฟื้นตัวขึ้น โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตพลังงานในวงกว้างซึ่งสร้างความประหลาดใจต่อตลาด รวมถึงทำให้จีนต้องเร่งนำเข้าเชื้อเพลิงปริมาณมาก
สำนักข่าวรอยเตอร์ได้เปิดเผยข้อมูลของกรมศุลกากรจีนว่า ยอดส่งออกน้ำมันเบนซินแตะ 1.01 ล้านตันในเดือนต.ค. ซึ่งปรับขึ้นจาก 920,000 ตันในเดือนก.ย. แต่ยังคงต่ำกว่าระดับเมื่อปีก่อนหน้าอยู่ 47%
สำหรับวิกฤตพลังงานภายในประเทศเกิดขึ้นขณะเข้าใกล้ฤดูหนาว ทำให้จีนต้องงัดมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อบรรเทาปัญหา รวมไปถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการกวาดล้างเหมืองบิทคอยน์ในเดือนก.ย. และเมื่อไม่กี่วันก่อนยังออกคำสั่งเตือนไม่ให้รัฐวิสาหกิจข้องเกี่ยวกับการขุดเหมืองคริปโต พร้อมพิจารณากำหนดบทลงโทษบริษัทที่ยังคงฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของรัฐบาลด้วยการให้จ่ายค่าไฟฟ้าในราคาที่สูงขึ้น เพราะมองว่าการขุดบิตคอยน์เป็นการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง