นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะระบายน้ำมันบางส่วนออกจากคลังสำรอง เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของสหรัฐ โดยญี่ปุ่นจะดำเนินการดังกล่าวในแนวทางที่ไม่เป็นการละเมิดกฎหมายของประเทศซึ่งกำหนดไว้ว่า การระบายน้ำมันจากคลังสำรองจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีความเสี่ยงที่อุปทานน้ำมันจะเกิดภาวะชะงักงัน
"ที่ผ่านมานั้น เราได้ทำงานร่วมกับสหรัฐเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก และเราได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับสหรัฐในการขายน้ำมันบางส่วนในคลังสำรองของเรา ซึ่งเราจะดำเนินการโดยไม่ละเมิดกฎหมายการสำรองน้ำมันในปัจจุบันของญี่ปุ่น" นายคิชิดะกล่าว
ทั้งนี้ นายคิชิดะไม่ได้ระบุว่า ญี่ปุ่นจะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองในปริมาณเท่าใด อย่างไรก็ดี นายโคอิชิ ฮากิอูดะ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นจะเปิดเผยรายละเอียดต่าง ๆ ในวันนี้ ซึ่งรวมถึงปริมาณน้ำมันที่จะระบายออกจากคลังสำรอง พร้อมทั้งระบุเสริมว่า ญี่ปุ่นจะยังคงโน้มน้าวประเทศผู้ผลิตน้ำมันให้ร่วมกันรับมือกับภาวะราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
คำยืนยันของนายคิชิดะมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันดิบ 50 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยจะร่วมมือกับจีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้เพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่า 400,000 บาร์เรล/วัน
หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานก่อนหน้านี้ว่า ญี่ปุ่นจะระบายน้ำมันจากคลังสำรองราว 4.2 ล้านบาร์เรลออกมาผ่านทางการประมูล โดยญี่ปุ่นมีน้ำมันสำรองอยู่ในคลังทั้งสิ้นประมาณ 490 ล้านบาร์เรล โดยการประมูลน้ำมันดิบจะจัดขึ้นภายในสิ้นปีนี้