สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) ได้ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนลดลง 5.4% ในปี 2564 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลงรายปีครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 เนื่องจากจีนดำเนินการควบคุมภาคการกลั่นเพื่อควบคุมการผลิตเชื้อเพลิงส่วนเกินภายในประเทศ ในขณะที่บรรดาโรงกลั่นเน้นใช้น้ำมันดิบที่กักตุนเอาไว้มากกว่าการนำเข้า
ทั้งนี้ การนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนธ.ค.แตะ 46.14 ล้านตันและเป็นการขยายตัวเมื่อเทียบรายปีครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. เนื่องจากโรงกลั่นเอกชนเร่งใช้โควตาปี 2564 ให้ครบ ทำให้ยอดนำเข้าทั้งหมดในปี 2564 แตะ 512.98 ล้านตัน ซึ่งลดลงจาก 542.39 ล้านตันในปี 2563
การปรับลดลงดังกล่าวเทียบกับอัตราการเติบโตของการนำเข้ารายปีเฉลี่ยที่เกือบ 10% นับตั้งแต่ปี 2558
การนำเข้าเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ราว 10.87 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นปริมาณรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ในปี 2564 บรรดาโรงกลั่นและเทรดเดอร์เน้นการใช้สต็อกน้ำมันดิบที่กักตุนเอาไว้มากกว่าการนำเข้า เพราะราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นและอุปสงค์เชื้อเพลิงเติบโตในอัตราชะลอตัวลง แตกต่างไปจากเมื่อปี 2563 ที่บริษัทต่าง ๆ เร่งกักตุนน้ำมันดิบเพราะราคาลดลงต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษและอุปสงค์เชื้อเพลิงฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดของโควิด-19